ค้นหาแหล่งท่องเที่ยว
ป้อนข้อมูลท่องเที่ยว
ไปนั่งรถไฟ 18 บาท ที่โคราช มาครับ
โดย .. เป้ใบ รองเท้าคู่

ช่วงนี้ผมชอบดูซีรี่ย์ญี่ปุ่น ทำให้รู้สึก หลงรักรถไฟ ขึ้นมา เพราะซีรี่ย์ที่ดู หลาย ๆ ฉากจะมีรถไฟให้เห็น หน้าตาแปลก ๆ รวมทั้งบรรยากาศที่แตกต่าง ทั้งแบบหรูหรา ไฮโซ และบ้าน ๆ กันเอง ประเภท ไข่ แข็ง ปัง ก็มีให้เห็น เป็นแต่เปลี่ยนเป็นข้าวหน้าปลาไหล หรือข้าวปั้น แทนเท่านั้น

นึกอยากไปนั่งรถไฟในชนบทของญี่ปุ่น แต่ด้วยเงินในกระเป๋าที่มีอยู่ ผมจึงทำได้แค่ นั่งรถไฟในชนบทไทย ซึ่งก็ไม่ได้วางแผนอะไร เมื่อวานตื่นเช้าขึ้นมา เช็คตารางรถไฟสายอีสานเหนือ แล้วโยนเสื้อผ้าใส่เป้ เผื่อนอนค้างสักคืน อาบน้ำแต่งตัว แบกเป้เสื้อผ้า และกระเป๋ากล้องคู่ใจ เดินดุ่ม ๆ แวะกินโจ๊กหมูเจ้าประจำที่ปากซอย แล้วก็เรียกแท็กซี่ ไปสถานีรถไฟหลักสี่ แป๊บเดียวก็ถึง ค่ารถแค่ 49 บาท ส่งแบงค์ 50 แล้วบอกพี่แท็กซี่ว่าไม่ต้องทอนครับ

รถด่วนขบวนที่ 75 กรุงเทพ – หนองคาย เป็นขบวนที่ผมปาเป้าเลือกมาครับ ตามตาราง จะออกจากสถานีหลักสี่ 08.59 แต่พอถึงเวลาดังกล่าว ก็มีประกาศเสียงตามสายว่า รถขบวนนี้จะมาช้ากว่ากำหนด 10 นาที ผมนึกในใจว่า อุตส่าห์จะชมสักหน่อยว่าเดี๋ยวนี้ รฟท. (รถไฟไทย) เขาปรับปรุงดีแล้วเชียวนะ

รถด่วนขบวนนี้ ไม่มีชั้น 1 มีชั้น 2 นั่งปรับอากาศ และชั้น 3 นั่งพัดลม ซึ่งผมเลือกไปชั้นนี้ครับ เพราะวันนี้ อากาศเริ่มหนาว และแน่นอนว่า จะได้ บรรยากาศของ รฟท. เต็ม ๆ ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง ทันทีที่ก้าวขึ้นรถ ก็ต้องตกใจนิดหน่อย ว่าทำไมคนถึงมากมายขนาดนี้ และดูเป็นรถไฟนานาชาติมาก มีทั้งแขก ฝรั่ง ไทย จีน ญี่ปุ่น ส่งเสียงสารพัดภาษา และเซลฟี่กันสนุกสนาน

แต่ความอึกทึกก็เปลี่ยนเข้าสู่โหมดปกติเมื่อถึงสถานีอยุธยา นักท่องเที่ยวลงหมด จะเหลือก็แต่ คนเดินทางท้องถิ่น ตัวจริงเสียงจริง ที่นั่งว่างลง หลายคนเอกเขนก พาดขา ขดตัว กันตามสบาย คนขึ้นคนลง มีน้อยมาก คงจะเป็นตัวแปรจากค่าธรรมเนียมรถด่วน ซึ่งเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูง ถ้าหากเดินทางระยะสั้น ๆ

ที่ชุมทางบ้านพาชี ไอติมกะทิเจ้าอร่อย ยังคงเสนอขายถึงริมหน้าต่าง ส่วนบนขบวนรถ ก็มีพี่ผู้ชายเดินขายน้ำเย็น มีทั้งน้ำเปล่า น้ำอัดลม และพี่ผู้หญิงเดินขาย ข้าวเหนียวหมูปิ้ง และข้าวกระเพราไข่ดาว อย่างหลังนี้ ใส่กล่องโฟมขนาดใหญ่ ราคา 50 บาท ตอนแรกผมคิดว่าแพงทีเดียว แต่เห็นคนซื้อกิน ก็สมราคา คือ ข้าวเยอะ หมูเยอะ ใข่ฟองใหญ่

แป๊บเดียวก็ผ่านสระบุรี เข้าเขตลพบุรี ช่วงผ่าน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งตอนนี้ มีปริมาณน้ำเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ของความจุ เพื่อนร่วมทางของผม รวมทั้งตัวผม ต่างก็ลุกจากที่นั่ง ยกมือถือ ขึ้นเก็บภาพกันเป็นที่สนุกสนาน ไม่เว้นคุณป้าผู้สูงวัย ที่นั่งตรงข้ามผม

สักพักก็เข้าสู่ดงกังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้า เทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ พร้อม ๆ กับ ลุงขายถั่วลิสงต้ม ของโปรดของผม ถุงอย่างใหญ่ ราคา 20 บาท แล้วก็ข้าวโพดต้ม ซึ่งผมไม่ชอบเท่าไร แต่คนอื่นคงจะชอบ เพราะเห็นซื้อกันมากกว่าถั่วลิสง รถไฟไต่ระดับความสูง ลัดเลาะไปตามริมเขา วิวด้านหนึ่งคือคอนกรีตกันดินสไลด์ วิวอีกด้าน เป็นทุ่งนาด้านล่างไปจนสุดสายตา

แล้วก็เข้าอุโมงค์สั้น ๆ โผล่ออกมาอีกที เสียงดัง ๆ ของเครื่องดีเซลเพราะต้องใช้กำลังไต่เขา ก็เบาลงเพราะเป็นช่วงลงเขา วิวข้างทางเปลี่ยนไป แผ่นดินอีสาน ที่ราบสูงเก่าแก่ทางธรณีวิทยา ก็ปรากฏให้เห็น เนินลูกฟูกสูง ๆ ต่ำ ๆ ขณะนี้ปกคลุมไปด้วยข้าวที่รอเกี่ยว รถเกี่ยวเริ่มมีให้เห็น พร้อม ๆ กับรถไถเตรียมดินเพื่อลงมันสำปะหลัง ที่นำหน้าลูกเล็กเด็กแดง เดินหน้ากระดานปักมัน

แม้จะออกตัวเลท แต่ก็ถึงบัวใหญ่ ตรงตามตารางเวลา คือ 14.04 ทำไมต้องเป็นบัวใหญ่ ไม่มีเหตุผลอะไร แค่ว่า ผมไม่เคยมาที่นี่มาก่อนเท่านั้นครับ มีคนลงที่นี่ รวมผมด้วย เท่ากับ 4 คน ผมหันซ้ายหันขวาแบบงง ว่าจะเอาอย่างไรกับชีวิตดี จากนั้นก็แวะเข้าชมกิจการห้องสุขาที่สถานีนี้ดู ค่าเยี่ยมชม 3 บาท สะอาดสอ้านดีครับ

ล้างหน้าล้างตาแล้ว เหมือนไก่ได้น้ำ รู้สึกสดชื่นดีแล้ว ผมก็เลือกที่จะเดินเรื่อยเปื่อย กะว่า จะกิน ลาบ ต้มแซบ ข้าวเหนียว แต่ร้านแรกที่เจอ เป็นร้านก๋วยเตี๋ยว ดูหน้าตาแล้ว บ่งบอกอายุเก่าแก่ ดั้งเดิม ทีเดียว ผมเลยอดใจไม่ไหว เส้นหมี่น้ำ เป็นเมนูที่ผมเลือก พอยกมา ไม่ต้องปรุง กินกันเลย จะได้รู้รสชาติที่แท้จริงเป็นอย่างไร หมดชามแล้ว ผมให้ 8 คะแนน เต็มสิบครับ

ตอนแรกคิดว่าจะค้างที่นี่สักคืน แต่ที่พัก อยู่ห่างจากชุมชนออกไป ผมเลยเปลี่ยนใจ เดินกลับไปที่สถานีรถไฟอีกครั้ง อะไรมาก่อนไปอันนั้น และ รถท้องถิ่น ขบวนที่ 432 ขอนแก่น – ชุมทางแก่งคอย คือ เจคพอท .. โคราช คือ ปลายทาง .. ผมเดินตรงไปช่องขายตั๋ว บอกถึงที่ที่จะไป พี่คนขายตั๋วบอกราคามา ผมต้องย้ำอีกครั้ง เท่าไรนะครับ .. สิบแปดบาท ครับ อะไรจะถูกขนาดนั้น กับระยะทางและเวลาที่เดินทางเกือบ 2 ชั่วโมง

คงเพราะเป็นวันเสาร์ รถท้องถิ่นขบวนนี้จึงว่างมาก มีคนขึ้นลงตามสถานี สถานีละ 2-3 คนเท่านั้น และบนเส้นทางนี้เอง ที่ทำให้ผมตื่นตาตื่นใจมาก เพราะตลอดเส้นทางจากบัวใหญ่ จนถึงโคราช กำลังมีการก่อสร้างที่บ่งบอกถึงอนาคตของระบบรางของไทยเราทีเดียวครับ

รางคู่ที่ผมได้ยินข่าวทางสื่อต่าง ๆ คืบหน้าไปมากทีเดียว อีกทั้งสถานีที่กำลังสร้างขึ้นใหม่ ชานชลาปรับใหม่ที่ดูแล้วก็คงจะพอเดาได้ว่า คงจะเสมอกับพื้นในตัวขบวนรถไฟ ไม่ต้องตะกายขึ้นบันไดแคบ ๆ อย่างทุกวันนี้ มีทางลาดสำหรับวีลแชร์ อีกทั้งสะพานลอยให้รถข้ามในช่วงถนนตัดผ่านทางรถไฟ และทางลอดใต้ทางรถไฟคงจะมีไว้สำหรับจักรยาน มอเตอร์ไซค์ รถอีแต้น มีให้เห็นเป็นระยะ ๆ

เห็นแล้วผมรู้สึกเสียดายแทนหน่วยงานที่รับผิดชอบ ที่น่าจะประชาสัมพันธ์ในงานที่ทำให้คนได้รู้มากกว่านี้ สำหรับผมแล้ว เป็นเรื่องที่อแมสซิ่งมาก ความรู้สึกที่ผมมีต่อ รฟท. เปลี่ยนไปแบบ 360 องศาทีเดียว

ผมมาถึงชุมทางบ้านจิระ โคราช 17.26 ตรงเวลาแป๊ะ .. จะเอายังไงกับชีวิตดี .. ท้องหิวแล้ว แต่มองไปรอบ ๆ ไม่มีอะไรกินเลย นั้นกลับบ้านเลยดีกว่า คือ ข้อสรุป

รถสองแถวสาย 7 วิ่งจากหน้าสถานี ไปยัง บขส. ค่ารถ 8 บาท ที่นี่ มีรถทัวร์ ลงกรุงเทพทุก ๆ ชั่วโมง ค่ารถ 191 บาท ผมเลือกใช้บริการของนครชัย ซื้อตั๋วแล้ว ก็โฉบเข้าไปหาอะไรกินในศูนย์อาหาร ซึ่งไม่อร่อยเลยสักนิด

ห้าทุ่มรถทัวร์ก็จอดส่งผมที่ดอนเมือง ขึ้นแท็กซี่ 70 บาท ถึงบ้านอย่างปลอดภัย จบทริป ที่ไม่ได้คิดอะไรแต่เพียงแค่นี้ครับ


ชุมชนท่องเที่ยวอื่น ๆ

Booking.com

หน้าแรก | ท่องเที่ยวใน กทม. | ท่องเที่ยวในภาคเหนือ | ท่องเที่ยวในภาคกลาง | ท่องเที่ยวในภาคอีสาน | ท่องเที่ยวในภาคตะวันออก | ท่องเที่ยวในภาคใต้ | ลงโฆษณา | ติดต่อเรา

โฮมสเตย์เกาะพิทักษ์ ชุมพร ปางอุ๋ง ชุมชนเก่าริมน้ำจันทบูร ที่พักมีจักรยานให้ยืม หมู่บ้านเซรามิคเกาะคา ลำปาง ทุเรียนศรีสะเกษ ปฏิทินท่องเที่ยวชุมชน ล่องแก่งหนานมดแดง พัทลุง พรหมโลก นครศรีธรรมราช ทะเลน้อย ปากประ พัทลุง ล่องแก่ง ล่องเรือ พายเรือ บ้านอีต่อง เหมืองปิล๊อก อัมพวา เชียงดาว แม่กำปอง